แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชีวิตและโลก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชีวิตและโลก แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2567

ช่างวิเศษ

นั่นสิ ๆ

ใจยิ่งจับยิ่งดึงดื้อถือครอง

ใจก็ยิ่งเหนื่อยล้าอ่อนโรงแรง


ดูสิ ๆ

แสงส่องมาก็ลาไป

สายลมโชยกรายก็ผายผ่าน


โลกตรงหน้านี้

ช่างวิเศษแท้

วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

จิ๋ว-แมวน้อยอันเป็นที่รัก☆☆ #มาให้รักให้รู้ #อยู่ให้ผูกพันห่วงใย #จากลาให้อาลัยหา

♡♡จิ๋ว-แมวน้อยอันเป็นที่รัก☆☆
#มาให้รักให้รู้ #อยู่ให้ผูกพันห่วงใย 
#จากลาให้อาลัยหา


ไม่เคยคิดว่า จะไว จะจากกันเร็วถึงเพียงนี้
จิ๋ว-สายัณห์ แมวน้อยหางกิ้น
นอนตายเบิ่งตาที่หน้าบ้าน
เห็น รู้ ก็ตอนเช้า ไปเปิดประตูเหล็กพับหน้าบ้าน
ขณะมองลอดช่องประตูไปเห็นนอนอยู่
ในใจก็แว้บคิด ยังไม่ปักใจว่าจิ๋วจะตายจาก
เลยรีบเปิดประตู
...กะแล้บ โป๊ก แป๊ก.... เสียงประตูเหล็กบานพับแต่ละบานกระทบกัน
จิ๋วยังนอนนิ่งในท่าเดิม 
นอนเอียงตัวด้านซ้ายแนบพื้น ขาเหยียดออกพองาม
ในใจเริ่มคิดล่ะ จิ๋วคงจากไปจริง ๆ
ประตูเหล็กพับสุดท้ายแนบกับพับอื่น ผลักไปชิดผนังบ้าน
รีบก้าวไปนั่งก้มดูจิ๋ว
อนิจจา! ตัวแข็งแล้ว  ลิ้นโผล่จากฟันนิดหนึ่ง
อุ้มขึ้นมา เห็นหยดน้ำลายตรงพื้นที่ตรงกับปาก
อุ้มเข้าบ้าน วางน้องไว้ข้างทางลาดรถเข็น
รีบเข้าไปปลุกลูกชายลูกสาว แจ้วข่าว...

ปกติจิ๋วจะมานอนเป็นเพื่อนแม่ที่ออกมาปูที่นอนเพื่อยู่เป็นเพื่อนยายที่ตื่นดึก
จิ๋วจะมาหยอก มาล้มตัวนอนใกล้ ๆ เหยียดตัวตามสบายอยู่ข้าง ๆ แม่ 
ข้างที่นอนตรงพื้นบ้านบริเณทางเดินเข้าครัว ตรงนั้น

บ่อยครั้งที่จิ๋วป้วนเปี้ยนมานอนตักเวลาเรานั่งกับพื้น
หรือแม้แต่ตอนเรานั่งเก้าอี้
ตอนเรานั่งโต๊ะทำงาน จิ๋วก็จะปีนมาขอทำช่วย
ถ้าเราบอก "ไม่ต้อง ๆ" และสะกิดเขาเบา ๆ เขาก็จะเดินไปที่มุมโต๊ะบ้าง
ที่ปลายโต๊ะบ้างแล้วล้มตัวลงนอน คล้ายจะบอก 
"ไม่ให้ช่วย ก็ขอนอนให้กำลังใจล่ะกันนะนุด"

จิ๋วเป็นแมวหลงมา มาจากไหนไม่รู้
ตัวเล็ก ๆ ป้อม ๆ ขนออกสีอุยทุย...
ลูกสาวได้ยินเสียงแมวร้องที่โรงเก็บของหน้าห้องน้ำของบ้านหลังน้อย
ที่มีหลังคาเชื่อมต่อบ้านหลังใหญ่
เธอไปอุ้มมา "หนูเลี้ยงน้องได้ไหม"
"จะดีหรือลูก ตอนนี้เรามีสี่ตัวแล้วนะ" พ่อชั่งใจ สบตาลูกสาว
"อ้าว เลี้ยงก็เลี้ยง ตัวนี้ตัวเดียวนะ"

จากนั้นบ้านเราก็มีสมาชิกแมวเพิ่มเป็นตัวที่ห้า
มีจันทร์แรม แม่ของเด็ก ๆ สามตัว (ที่จริงมีสี่ตัว แต่ตัวหนึ่งลักหนีไปแล้ว)
ลูกสามตัวของจันทร์แรม มีหนึ่ง ตัวผู้สีขาวหม่นวิเชียรมาศ ชื่อ อรุโณทัย หรือ ไทไท  สอง ตัวผู้สีดำด่างขาวตรงเท้าและท้องชื่อ อนธการ หรือ กานกาน และสาม ตัวเมียดำมิดชื่อ ราตรี หรือ ตีตี้
ทุกชื่อ ลูกสาว เธอคิดและตั้งให้ และให้น้องชายเรียกตาม
ตายาย พ่อแม่ ก็เรียกชื่อแมว ๆ ทุกตัวตามชื่อเล่นนั้น ๆ

ช่วงราวห้าปีมานี้ ครอบครัวเราจึงต้องมีภารกิจชีวิต
ดูแลแมว ซื้ออาหารเปียก อาหารเม็ด ปลาทู ปลาอื่น ๆ มาให้แมว ๆ กิน  
ซื้อทรายแมวมาเติม-เปลี่ยนในกระบะ
บางช่วงเวลา แมวน้อยก็อึไม่เป็นที่ ต้องเก็บกวาดเช็ดถู
พาไปฉีดวัคซีนตามกำหนด ป่วยก็พาไปรักษาที่คลินิก-โรงพยาบาลสัตว์ 

เหมือนจะยุ่งยาก...
แต่แมวของเราก็ร้อยเชื่อมหัวใจของพวกเรา
ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นได้เป็นที่อัศจรรย์

ความสูญเสีย นำมาซึ่งความเศร้าเสียใจ
วันนี้ก็เช่นกัน ขับรถไปสวนติดนาที่ห่างบ้านไปราว 15 กม.
ลูกสาวอุ้มกล่องเอกสารใส่ร่างไร้วิญญาณของจิ๋ว-แมวอันเป็นที่รัก
ร่ำไห้น้ำตาไหลไปตลอดเส้นทาง

ผมขุดหลุมขนาดกว้างกว่าตัวจิ๋วหน่อย ให้นอนได้สบาย ๆ 
หลุมอยู่ใต้ร่มหม่อน ข้าง ๆ ที่ ๆ เคยฝั่งแมวอันเป็นที่รักสองตัว
ตัวแรกชื่อ "ที่รัก" เป็นยายของหลาน ๆ รุ่นเดี๋ยวนี้
ตัวสองชื่อ "โพล้เพล้" เป็นลูกสาวของที่รัก เป็นพี่สาวของจันทร์แรม-ป้าของหลาน ๆ รุ่นนี้

ขุดหลุมเสร็จ บอกลูกสาวอุ้มลังน้องจิ๋วลงจากรถ
พ่อเดินหาเก็บดอกหญ้าดอกตำลึงทองมาส่งให้ลูกสาวถือไว้
พ่ออุ้มจิ๋วออกมาจากกล่องกระดาษ วางร่างจิ๋วลงก้นหลุม
"เอาดอกไม้ให้น้อง บอกลาน้องนะลูก"
ก้นหลุมลึก ลูกสาววางดอกไม้ไม่ถึง 
พ่อจึงช่วยจับต่อและนำไปวางบนร่างไร้วิญญาณของแมวน้อย
"พ่อบ่มีแนวให้ดอกเดอ มีดอกไม้หมู่นี่ กับปลอกคอนำเจ้านี่ล่ะ"
เสียงสะอื้นยังมี ไร้คำพูดใด ๆ จากพี่สาวมนุษย์
พ่อใช้มือลูบปิดเปลือกตาให้ลูกชายตัวน้อย และลูบไล้ตัวเป็นครั้งสุดท้าย

"ไปดีสมสุขเดอจิ๋วเดอ พักผ่อนเดอลูก ผ้อกันส่ำนี่ล่ะชาตินี่เฮา
จะแหม่นมาอยู่นำหน่อยเดียว มาให้ฮัก จากให้คึดฮอดแท้เดนอ อ้าว หลับให้สบายเดอ พักผ่อน ๆ สา"

พ่อนำลูกสาว ค่อย ๆ หว่านดินลงกลบร่างจิ๋ว-แมวน้อยที่น่ารักทีละนิด ๆ 
แล้วจึงจัดการโกยดินกลบหลุม...

ยามเช้าหญ้าหมาดฝนฉ่ำ รอบ ๆ รายล้อมหลุ่มฝังศพจิ๋ว  
ไม่นาน พอตะวันขึ้นพ้นทิวไม้เหนือหลังคาบ้านของชาวบ้านสว่าง-หนองเสือ แสงคงจะสาดส่องต้องเม็ดน้ำใส ๆ ที่ยังค้างบนใบหญ้า 
ให้เปล่งประกายส่งทางดวงวิญญาณน้อย ๆ ของจิ๋ว-สายัณห์ 
ให้เดินทางไกลไปสู่เส้นทางของชีวิตใหม่ 
ไปเริ่มต้นชีวิตอีกครั้ง ที่ไหนสักแห่ง ๆ.








วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

นานปีผ่าน

 


#นานปีผ่าน

นานวันพ้นไป พ้นไป
ฝนยังลงเม็ดยามเมฆทะมึน 
ต่ำลงมา ๆ
ฟ้าแลบแปลบแปลบ เปรี้ยง! บางครา

เห็นเป็นธรรมดา
เพราะชาชิน
เพราะหัวใจตีบตันเสียแล้วหนอ

เห็นใหม่ เห็นใหม่ใหม่
ด้วยหัวใจรักล้นทรวง
นั่นดู๋ดู 
สด ๆ เดี๋ยวนี้ ตรงนี้ ที่นี่!

อย่ารำคาญเวลาเลย
อย่ารำคาญอายุเลย
อย่าแม้กระทั่ง
รำคาญการเจ็บป่วยไข้ 
หรือผิดหวัง โกรธ ขึงเคียด เคือง แค้น...

ก็คืนนี้หมดไป
วันใหม่ก็รอเราอยู่
มิใช่หรือ!

วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566

อย่าคิดเออออไปเอง


ธรรมดาความรู้สึก
เหมือนสายลมยามเช้า ๆ
พัดมาแล้วก็พัดเลยไป
แม้นจะเย็นสบายชวนชื่น
แม้นจะผ่อนคลายชวนเคลิ้ม
แต่ล้วน มิคงอยู่ยืนนาน

ธรรมดาความคิดฝัน
คล้ายสายลมยามเช้านั่น
คิดได้ฝ่ายเดียว
คิดดื่มด่ำฝ่ายเดียว
คิดเฟื่องฟูฟ่องคนเดียว
คิดวาดเป็นเรื่องเป็นราวลำพัง
คิดล่องไหลเป็นคุ้งเป็นแควเป็นธารกระแสสุดเกษมโดดเดี่ยว

มิอาจล่วงรู้ได้เลย
ว่าใครที่เราคิดฝันรำพันถึง
เขาจักคิดเฉกเช่นเราไหม
เขาจักคิดตามแนวแววหวานซ่านซึ้งกึ่งกำซาบอาบใจในลึกล้ำเหลือ
หรือว่า เขาจักคิดเป็นอื่น เป็นไกล เป็นไปตรงกันข้าม!

เช้าวันใหม่แวะมากระซิบ 
อีกเช้าแล้ว ใจข้าฯเอ๋ย
สายลมเช้า ๆ ร่ำรำเพยคลอเคลียยอดใบหญ้าบาง ๆ
แวววาวผ่องละอองก่องเก็จเพชรน้ำค้าง
ชั่วครู่คราวก็พลันล่องหนหายหน้า
ปล่อยให้โลกยามสายนิ่งงัน
ขณะมหึมาเมฆดำคล้ำทะมึนยืนสบถบดบังแสงตะวัน.

---
ทางหอม
จ. 27.02.2023/2566

วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566

โพล้เพล้ แมวลูกที่รัก มาให้รักแล้วจากไปก่อนวันวัยอันควร

โพล้เพล้ แมวน่ารัก
โพล้เพล้ ลูกแมวชื่อที่รัก
เธอเติบโตหลังจากแม่ตาย
แม่กินอาหารผสมยาพิษที่ตลาด
เดินโซเซมาบ้าน
น้ำลายฟูมปาก ล้มนอน...
แม่ พ่อ พี่ ๆ พยายามช่วย ให้กินไข่ดิบ...
แต่ตัวเริ่มแข็ง คอแข็ง กลินอะไรไม่ได้
แล้วก็ลงนอนสิ้นใจ

โพล้เพล้ล่ะ
ตาบอกเห็นนอนทั้งวัน
น้ำลายไหล ขี้ไหล
ตัวแข็งแล้ว
ก่อนที่พ่อ แม่ พี่ ๆ จะกล้บมาถึง
เย็นนี้ เป็นเย็นแห่งความเศร้าและการสูญเสีย

โอ...ชีวิต
ที่รัก แมวผู้แม่ ผู้มาให้รัก พลันจากไป
โพล้เพล้ แมวผู้ลูก มาพลันจากไปอีก

เหลือน้อง จันทร์แรม
และหลาน ๆ ๓ ตัว ลูกจันทร์แรม
อนธกาล หรือ กานต์ ๆ แมวตัวผู้สีดำปลายมือเท้าสีขาว ท้องขาว อกขาว
อรุโณทัย หรือ ไท ๆ แมวตัวผู้วิเชียรมาศ สีขาว หางเทา
และ ราตรี หรือ ตีตี้  แมวตัวเมียสีดำเหมือนแม่
โพล้เพล้ผู้ป้ามาจากลาหลาน ๆ ไปเสียแล้ว
จากน้องไปไม่หวนกลับแล้ว




ในนามความรักและอาลัย
ขอให้โล้เพล้ไปดี
ไปสู่สุขคติเดอหล่าเอย

โชคดีที่เราได้เกิดมาได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
แม้วันเวลาเพียงสอง-สามปีเอง
แต่มีหลายเรื่องราวที่โพล้เพล้ได้เขียนไว้งามมื่งในความทรงจำ

เราจะไม่ลืมเจ้าเดอ
รักและอาลัยยิ่ง
โพล้เพล้ แมวที่รักของบ้านเรา 
ป้าแมวที่น่ารักของหลาน

-----
ทางหอม
ศ.3 มีนาคม 2566"














วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2566

วัยกับใจ ใครว่าไม่ต่าง

"วัยมีส่วนทำให้คนเราคิดเกี่ยวกับบางสิ่ง ต่างไปจากเดิม"

คำพูดข้างต้น อาจใช้ไม่ได้กับคนที่ยังอ่อนวัย
คำพูดข้างต้น อาจดูเหมือนจงใจพูดให้ขัดแย้งเพื่อดึงดูดความสนใจ
แต่เปล่าเลย ถึงวัยนี้ ถึงตอนนี้ บอกได้เลยว่า มันเกิดขึ้นจริง ๆ กับตัวเอง
ไม่ได้เสแสร้งแกล้งว่า ไม่ได้ดราม่าอะไรแต่อย่างใด


เรื่องที่คิดต่างไปเรื่องแรก ที่อยากเล่าไว้
ก็คือเรื่องแรงดึงดูดใจจากเพศตรงข้าม
เมื่อก่อน ที่ได้เห็นผู้หญิง หญิงสาว...
รู้สึกว่าสนใจ อยากมอง อยากสำรวจ...
รู้สึกว่าเห็นแล้ว สวย งาม ชุ่มชื่นหัวใจ


ยิ่งพบหญิงสาวที่ถูกใจ ถูกจริตกัน 
รู้สึกว่า หากเราได้อยู่ใกล้ชิด ได้พูดคุย คงจะดี
นึกวาดฝันไปไกล... ไปในทางรื่นรมย์ เข้าทำนองเพ้อฝัน
แม้จะรู้สึกตัวว่า เป็นความฝัน 
แต่ใจเราก็ยังยอมให้ความฝันนั้นมันเดินทาง
เดินทางไปกับหญิงสาวที่ตนเลือก 
ที่ตนยิ้มหัว อิ่มอกอิ่มใจ แม้แค่ยามคิดถึง 
ยามคิดห่วงหาอาทรเพียงลำพัง
เธอคนนั้นจะรู้หรือไม่ เธอคนนั้นจะคิดอย่างไร ไม่ได้ใส่ใจเลย
ขอให้มีเธอในความคิดถึง ในความฝันทั้งกลางวันกลางคืน


ความรู้สึกดีใจ ชื่นใจ เกิดขึ้นเสมอ แม้เจอคนที่คล้าย ๆ เธอคนนั้น
อดกระอิ่มยิ้มย่อง หัวใจพองไม่ได้ เพียงแค่เธอหันมาสบตา
เพียงแค่เธอหันมายิ้มน้อย ๆ 
เพียแค่เธอเอ่ยวาจาทักถามสักหน่อย
เพียงแค่เธอ...


และยามที่หัวใจเบิกบาน มองหญิงสาวคนอื่น ๆ
สั่งใจ สอนใจ ไม่อาจให้ใครมาแทนที่เธอได้ 
แต่ก็อดชื่นชมความงาม ความน่ารักของหญิงสาวคนอื่นไม่ได้อยู่ดี
เป็นการมองแบบที่ผีเสื้อชมดอกไม้หรือไม่ ก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะไม่เคยเป็นผีเสื้อ


แต่ที่แน่ ๆ ห้วงเวลาชีวิตที่ผ่านมา ก็เป็นเช่นนี้
"มองผู้หญิงแล้วมีความสุข ปรุงปรนเปรอตนเองไปได้ไม่รู้เบื่อ"


กลับกันเหลือเกินกับใจในวัยของวันนี้
คงไม่ว่ากันนะ คุณผู้อ่าน
นี่ไม่ได้อวดเก่ง อวดว่าตนเข้าถึงความจริงจนปลง วาง ปล่อยราคะได้ดอก
แต่ขณะช่วงเวลานี้ วันนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา เดือนที่ผ่านมา
รู้สึกว่า ผู้หญิง หญิงสาว... ก็เป็นสัตว์โลกธรรมดา ๆ
ผ่านสายตา ผ่านมุมมองแล้วก็ผ่านไป
จิตใจไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับเธอ ๆ ติดค้างอยู่


แต่นั่นแหละ วัฏฏะ กงเกวียนวงเวียนความคิดอ่าน
มันคงเล่นตลก ไม่แน่ดอก พรุ่งนี้ มะรืนนี้...
ความรู้สึกดีงามหวามไหวเมื่อได้ยลสตรีเพศ
อาจกลับมาสู่หัวใจผู้เขียน
และมันอาจมาแบบถาโถม 
จู่โจมจนหัวใจในวัยวันข้างหน้านั้น
ยอมศิโรราบหมอบคลาน
ไปอยู่แทบเท้าสายตาชะม้อยชะม้ายของเธอ 
ยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
อันนี้ก็ไม่อาจคาดเดา หรือพยากรณ์ล่วงหน้าได้.



วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เรื่องแต่งควรช่วยคนเราให้รื่นรมย์

 ผมไปพูดกับวัยรุ่นเรื่องการพัฒนาเรื่องสั้น-นิยายมา

มีนักเรียนวิจารณ์เรื่องสั้นเรื่องหนึ่งอย่างหัวเสีย

เขาว่า เนื้อหาสาระในเรื่องนั้นมันไม่ถูกต้อง เขารับมันไม่ได้


อารมณ์โกรธที่เขาแสดงออกผ่านเสียงพูดและกริยาท่าทางเอาจริงเอาจังอย่างนั้น

ก็พอจะอ่านสีหน้าที่อยู้ใต้หน้ากากอนามัยนั้นได้


เรื่องนี้มันติดในหัวผมมาหลายวัน

กลัวเหลือเกินว่า "เรื่องแต่ง" จะไปทำร้ายใครแบบนั้น


ผมให้เขามาหน้าชั้นเรียน  ปล่อยให้เขาพูดจนพอใจ โดยไม่ขัด 

แล้วให้ผู้แต่งเรื่องสั้นได้พูดบ้าง นักเขียนก็ยอมรับว่าข้อมูลที่บรรยายเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า

ในย่อหน้าที่คนอ่านพูดถึงมันไม่ครบถ้วนจริง ๆ เขายอมรับ และเขาได้แย้งด้วยว่า 

ย่อหน้าดังกล่าวมันเป็นแค่ เป็นแค่ความคิดเห็นของตัวละครตัวหนึ่งที่เป็นเด็กนักเรียน 

มันก็ย่อมสมเหตุสมผลที่มันไม่สมบูรณ์ (เหมือนตัวละครที่เป็นจิตแพทย์ หรือนักจิตบำบัด 

-อันนี้ผมว่าเสริมในใจ)


หลังจากทั้งสองพูดแล้ว ผมก็ได้ย้ำว่า เรื่องสั้นคือเรื่องแต่งนะ 

คนอ่านไม่ควรจริงจังกับมันจนเกินไป


แล้วผมจึงบอกว่า ผมชอบโครงเรื่องที่เรียบง่ายของเรื่องมากกว่าสาระข้อมูลของโรค

เรื่งราวชีวิตนักเรียนช่วงรอแม่มารับ กลับบ้าน ทานข้าว เข้าห้องนอน...


แม้ผ่านมาหลายวัน ตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกเป็นห่วงวัยรุ่นชายคนนั้น 

แต่คิดว่า เมื่อเวลาผ่านไปเขาคงคิดได้ว่า 

"เรื่องแต่งควรทำให้คนเรารื่นรมย์ เข้าใจชีวิตในทางสร้างสรรค์ มากกว่าเคืองขุ่นขัดข้อง"





วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

งานลอยกระทง งานรำลึกถึงสิ่งใด

ลอยกระทง ชวนคิด

หมายว่า ให้เรารำลึกถึงคูณค่าของน้ำ
คุณค่าแหล่งแม่น้ำ ลำคลอง ห้วยหนอง บึงบาง

คุณค่าน้ำ แหล่งกำเนิดและรักษาชีวิต
คุณค่าแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร แหล่งหล่อเลี้ยงชีวา

ไม่มีน้ำ ไม่มีแหล่งน้ำ
มีชีวิตคนในโลกได้ไหมเล่า

หากแต่งานรื่นเริงรื่นรมย์
ให้เวลา ให้รำลึก
ถึงคุณค่าอภิมหาศาลของน้ำและแหล่งน้ำ
หรือว่า เลือนรางเต็มที

ลอยกระทงส่งยิ้ม
ขอบพระคุณน้ำและแหล่งน้ำ





วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ยามยอมย้ายที่ ยามนี้ไม่มีใครหลีกเว้น

ใครบ้างเล่า
ติดที่ติดทางติดร่างติดเรือน

หากยังอยู่ดี
หากยังมีแรง
หากยังยิ้มสวย
หากยังหัวเราะใส
หากยังสนทนาละไม
หากยังพอแบ่งปันน้อยใหญ่
หากยังไปมาว่องไว
หากยังเป็นที่พึ่งที่หวังได้
หากยังกินอิ่มนอนอุ่นตื่นเช้าใหม่ ๆ
หากยังเดินทางได้ใกล้ไกล
กลับมาดึกดื่นยังตื่นเช้าไหว
หากยังไม่ต้องใช้ใครพยุงยามย่างย้าย
หากยังไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ นาน ๆ
หากยังไม่นอนติดเตียงจนเกินรำคาญ
หากยังไม่หูดับตาดับ
ใครบ้างเล่าจะยอมย้ายที่
ใครบ้างเล่าจะยอมย้ายร่าง!

-----
ทางหอม
23.07.2565/2022
ฌาปนสถานวัดบ้านเหล่าโป่ ต.ทุ่งมน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร
งานคุณพ่อสัมฤทธิ์ สีหนารถ








วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ฟ้าหม่น

ดินหม่นแห้ง
กอหญ้าหม่นหมอง
ท่งนาหม่นแดง
ต้นไม้หม่นเศร้า
ชาวนาหม่นเหงา
ชาวไร่หม่นหวัง
ชาวสวนหม่นฝัน
ชาวห้วยหม่นหม่น
ชาวบึงหม่นใจ
ชาวหนองหม่นอก
ชาวบ้านหม่นจิต
ชาวท่งหม่นท้อ
ชาวแหหม่นหัว
ชาวเบ็ดหม่นคันแทนา
ชาวมองหม่นน้ำ
ชาวรถไถหม่นขี้ไถ
ชาวรถกระบะหม่นเบื่อ
ชาวมอไซต์หม่นทรวง
ชาวจักรยานหม่นยิ้ม
...
ฟ้าจึงหม่น
ฟ้าร่ำไห้
แม้ในหน้าจักรวาลดิจิตอล
จักรวาลต่อจักรวาล
สุดสายแกแลคซีออนไลน์

เขียดจะนาปลอบใจฟ้า
อย่าโศกาเลยเจ้า
อึ่งบักยางค่อยทยอยคำกำลังใจ

---
ทางหอม
---










วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ซ่านทรวงใน




ในอกอึงคะนึง
ระหว่างความผิดบาป
กลางซอกหลืบความเศร้า
ไย...มิอาจลบเลือนเล่า

ความสุขแห่งความคิดถึง
แม้เพียงปลายก้อย
ของคำโพสต์แสนสั้น
อันอาจเทียมเท่าตึกระฟ้า
มหาภูผาตระหง่าน

หากซ่อนไว้
ลึกสุด
แผ่เผยเพียงแผ่ว
ในบทเพลงของหัวใจ
รำพันทุกวินาที
ขณะลมหายใจ
เฮือกสุดท้าย

โอ...
อันความซ่านทรวงใน
มิอาจเอ่ยคำ.

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เกิดบนตาย

ในนามไทรทราม
เกิดบนต้นไม้ใหญ่สมบูรณ์
ค่อยๆ เติบโตจากผู้ให้
สูบกิน สูบกิน
เติบใหญ่
หยั่งรากทิ่มแทงแทนที่
เติบใหญ่
ดื่มเลือดผู้เผื่อแผ่เกื้อกูล
มิเคยเฉลียวในเมตตา
มิเคยให้ค่าผู้เลี้ยงดู
มิเคยคิดแม้เศษเสี้ยวธุลีฝุ่น
ใครให้ชีวิต
ใครให้โอกาส
ใครให้มีอำนาจมหาศาล
ใครให้ได้สำแดงฤทธิ์บ้าแห่งตน
เติบใหญ่มิยอมหยุด
ทำลายทุกอณูเพื่อตนของตนถ่ายเดียว
ทำลายทุกส่วนที่รากหยั่งขยาย
ที่ตัวต้องการ
ที่ตัวโลภปรารถนา

จึงได้ชื่อ
"นักฆ่าเลือดเย็น"
แม้นกหนูกระรอกกระแต
ยังเมินผลบิดเบี้ยวสีดำทะมึน
แม้จะย้อมด้วยน้ำตาลสีสด
แม้จะใช้นางกวักผู้เป็นทาสสักแสนล้านป่าวร้องร่ำเชื้อเชิญ
สัตว์น้อยใหญ่ก็มิหันแล
ไม่นานดอก ไม่นาน
เมื่อต้นไม้ใหญ่ผู้ให้ชีวิตตายสนิท
เมื่อมีต้นลูกของเธอเกิดบนร่างเธอ
เธอจะค่อยๆ ตายทีละนิดๆ
มิแตกต่างจากที่เธอเคยสนุกกระทำ
มินานนักดอก
มินาน

|||ทางหอม
2 ส.ค. 2021/2564

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เมื่อยม้อย


⊙เมื่อยม้อย
|ทางหอม |

เมื่อยนำลมนำแล้ง
เมื่อยนำฟ้านำฝน
เมื่อยนำไม้บ่มีใบป่ง
เมื่ยนำถงบ่มีเงิน
เมื่อยนำคนเป็นหุ่น
เมื่อยนำทางมีแต่โสก
เมื่อยนำโจกบ่มีน้ำ
เมื่อยนำคำบ่มีแก่น
เมื่อยนำแค้นจุกอั่งคาคอ
ในวันคืนเงี่ยงค้อย
แสงเศร้าเก่าคลี่ม่านฝน
บังคีไฟฮ่างเถียงนาน้อย

||| 





















วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

นิยายฮัก


นิยายรัก

แรกพบเหมือนรู้จักกันมาเป็นพันปี
ดำดิ่งในรำลึก
ยิ่งนานวันยิ่งผูกฝั้น
ใจคิดถึงกอดก่าย

วันนี้ วัยล่วงคล้อย
คือยามบ่ายหลังฝนซา
ของหัวใจดวงน้อยหลายแสนร้อยบาดแผล...

||ทางหอม|
























วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บ่มีมากมาย


คีงบางพร้อมลมหายใจ
แม่พ่อพร้อมพี่น้อง
นาข้าวและไร่หอม
เสียงลำและเพลงทุ่ง
รักร้างและผะหยาคิดฮอด

บ่มีมากมาย ดอกเดนางเอย

||ทางหอม|


🌜เชิญแวะไปชมแบบคลิปวีดิโอ .MP4
YouTube/บ่าวทิยางชุมน้อยเดอ 🌝



🌜ชวนแวะไปทัศนาแบบ.MP3
Blockdit/ทางหอม 🌝














วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ความสูน


อยากบ่ได้กิน
ง่วงบ่ได้นอน
มีขาบ่ได้ย่าง
มีช่างบ่ได้สร้างแปลง
มีแสงเสียเปล่าบ่มีแนวตาก

นับหนึ่งถึงล้าน
ความคึดหายบ่
ความสูนหายหรือใด?

||ทางหอม|
18.06.2021




































วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ประจำรัก

ลงใจทุกก้าว
ทุกขณะยิ้มข้างเตา
ทุกขณะคิดข้างหม้อ
ทุกขณะฝันข้างหวด
ทุกขณะ...

ลงใจทุกกาละ
ยามตื่นมองฝนนอกชายคา
ยามชื่นฉ่ำน้ำในหนองในนา

แม้เจ็บปวดขาแข้งแขนเอว
โรคภัยมาเยือน
ยังมีขาประจำ

รักตนมากขึ้นตามอายุ
รักเธอจริงขึ้นตามอายุ
รักคุณแท้ขึ้นตามอายุ
รักงานง่ายขึ้นตามอายุ
รักรักประจำรัก
ประทับลงกลางใจดวงน้อย!

||ทางหอม|

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564

นิ่งไม่เงียบ

ลมฝนพัดเม็ดฝน
ปะทะสังกะสีหลังคา
ดัง...

ลมหายใจพัดเส้นขนในรูจมูก
เข้าก็พัด ออกก็พัด
ไม่นิ่งแต่เงียบ

ลมความหลังพัดหัวใจรู้สึก
นิ่งฟัง นิ่งฟัง
ไร้สรรพสำนียง.

| ทางหอม





ที่สุดของรัก

คลิก ฟังเพลงกันครับ ที่สุดของรัก  คือเห็นความงาม เป็นความจริงล้ำค่า ที่สุดของเข้าใจ คือแสงเช้าสาดต้องยอดยางนาต้นใหม่ เป็นความปรารถนาผ่องพริ้...