วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

นิยายรักอักษรธรรม ลองคิดโครงเรื่องกันก่อน

คิดแต่งนิยายรักอักษรธรรม 1

โดย  ฮีอันวา



💫ทำไมจึงคิดจะเขียนนิยายขยายฐานการอ่านเขียนอักษรทำ(ธรรม)

อยากนำเสนอการเขียนอ่านอักษรทำ/ธรรม หรือ โตธัมม์

เพื่อแสดงออกทางภาษา ไว้สื่อสารกับพี่น้องชาติพันธุ์ลาวทั่วโลกหล้า และผู้สนใจทั่วไป 
ได้ร่วมระลึกรู้ว่า นอกจากตัวอักษรไทยน้อย ที่ถูกขยับปรับแปลงเป็นตัวอักษรลาวในสปป.ลาวปัจจุบัน และตัวอักษรเขมรโบราณที่ใช้กันแพร่หลายมีอิทธิพลมาก่อนหน้านั้น แล้ว

ในอดีตกาล ลาวทั้งหลายในโขงเขตจีนตอนใต้ ทางเหนือพม่า บางส่วนในเวียดนาม ในลาว และในภาคอีสานของไทย ยังมีใช้อักษรอีก 1 ชุด ซึ่งบรรพชนลาวทั้งหลายได้คิด สร้างสา และใช้อักษรชุดนี้บันทึกสื่อสารหลักธรรมคำสอนของพระตถาคตสมณโคตมะกันมาอย่างรุ่งเรือง ในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 2000 (ราว ๆ พ.ศ. 1901 เป็นต้นมา) ถึงกลาง ๆ พุทธศตวรรษที่ 2200 (ราว ๆ พ.ศ. 2150) นั่นก็คือ 
ตัวอักษรธรรม หรือ ตัวธรรม โตธัมม์ หรือ ตั๋วเมือง หรือ ตัวไทขึน หรือ ตัวไทลื้อ

ลองนึกวาดภาพว่า 

สมมติให้มีเมืองลับแลเมืองหนึ่งอาจชื่อ "ฮี" ที่อักษรธรรมอ่านว่า "อันวา" 
เมืองนี้ตั้งอยู่ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำสักแห่ง ที่ชาวเมืองทั้งสองฟากฝั่ง 
ชาวเมืองทั้งหลายมีใช้อักษรตัวธรรมเป็นอักษรกลางบันทึกแทนเสียงเว่าสื่อสารกันเป็นปรกติสุข 

ลองนึกจินตนาการดูว่า จะมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้างหนอ?


💫เริ่มเรื่องตรงไหน

สมมติให้ตัวละครในโลกปัจจุบัน อายุสัก 35-40 ปี 

เขามีปัญหาการสื่อสารในชีวิต พูดประจำวันภาษาหนึ่งแต่ต้องเขียนหนังสืออีกภาษา แม้ว่าจะมีรากเหง้ามาจากที่เดียวกัน 

แต่ดูเหมือนมันมีอะไรที่ไม่สุด ยังมีอะไร ๆ ที่ค้างคา เวลาสื่อสาร... 

อาจใช้ปมขัดแย้งเพิ่มมิติเรื่องราว เช่น

มีปัญหากับคนในที่ทำงานและเพื่อนฝูงเพราะเรื่องนี้ 
มีปัญหาต้องออกจากงานเพราะเรื่องนี้
มีปัญหากับคนรักเพราะเรื่องนี้ 
มีปัญหากับพื่อนฝูงครอบครัว ก็เพราะเรื่องภาษาเขียนสื่อสารนี้

ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามยืนยันความเป็นจริง 
ทั้ง ๆ ที่ทุกคนต่างรู้กันดี 
แต่ทุกคนกลับมองว่า 
"เขามีปัญหา เขาเป็นตัวปัญหา เขาติดเชื้อโรคร้ายกาจเข้าให้แล้ว ยากเกินจะเยียวยาแล้ว"

เขาจึงต้องตัดสินใจหนีทุกคน ออกเดินทาง จนหลงเข้าไปอยู่ใน "เมืองอันวา" นั้น


💫กลางเรื่องเล่าอะไรบ้าง

เขารู้ตัวว่า ผู้คนในเมืองนี้ช่างพูดเหมือนเขา ใจดี มีใจสุนทรียภาพในชีวิตประจำวัน  มีทำด้วยธรรมะในกิจที่ทำ เขามีความสุขมาก

เขาตื่นตาตื่นใจ ได้รู้จักผู้คน เมือง ธรรมชาติ วิถีชนคนอันวา 

แต่... เขาถูกกันออกจากคนอื่นๆ ตามธรรมชาติ เมื่อเขากลายเป็นกาในฝูงหงส์ ในฐานะผู้มาใหม่ ที่ทุกคนคลางแคลงใจในหัวนอนปลายตีน 

ในเทศกาลเสพอักษร... เทศกาลประจำปีของชาวเมืองอันวา
เขาเหมือนถูกสาปให้เป็นหิน แม้แต่คนที่ดีกับเขาตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ วันนี้ก็ปล่อยเขาทิ้ง...

จากนั้น จึงมีเธอ..คนอาสาสอนภาษาอักษรทำให้เขา เพื่อจะให้ชาวเมืองยอมรับเขา ในฐานะเป็น
"ฅนอันวา" คนใหม่ได้

เขาเร่งเรียนอักษรทำประจำเมือง ภาษาที่ถ่ายทอดเสียงเว่าภาษาแม่ของเขาและชาวเมือง 

เขาเริ่มคิด ถาม ขัดแย้ง ย้อนแย้ง คิดต่อ คิดดัดแปลง บันทึก เขียนเล่าเรื่องด้วยอักษรทำ... เป็นเดือน เป็นปี และหลายปีผ่านไป...

💫จบเรื่องอย่างไรให้โดนใจ

เขารู้ตัวว่า ยิ่งนานวันเขายิ่งยินดี ที่ชาวเมืองเริ่มยอมรับความเป็นคนของเมืองอันวา 

แต่ความฝันเกี่ยวกับบ้านเกิด ฝันร้ายเกี่ยวกับครอบครัว คนรัก... 
ทำให้เขาลังเลที่จะตัดสินใจอยู่ที่นี่ตลอดชีวิต

ทางเลือกของเขา ลืมอดีต อยู่อย่างมีความสุขกับเมือง ๆ นี้ เมืองในฝันที่เขามาถึงมันแล้ว

หรือไม่ ก็นำเอาความรู้ทางอักษรศาสตร์กลับเมืองบ้านเกิดไปใช้  ไปเผยแพร่ 
ไปต่อสู้กับความไม่รู้ ไม่สนใจของคนที่นั่น

เขาจะเลือกทางไหน?


👉ปล. ส่วนชื่อนิยายเรื่องนี้ ยังไม่ตกลงใจนะ อาจเป็น "ธาตุอักษร" หรือ "ฅนอันวา" หรือ อันวาธานี หรือ อันวาบุรี หรือ อันวาบูร ???

จ.18/07/2565

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที่สุดของรัก

คลิก ฟังเพลงกันครับ ที่สุดของรัก  คือเห็นความงาม เป็นความจริงล้ำค่า ที่สุดของเข้าใจ คือแสงเช้าสาดต้องยอดยางนาต้นใหม่ เป็นความปรารถนาผ่องพริ้...