วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564

ร้างบางเหล่า | เล่าความหลัง

ตอนเด็ก งานเลี้ยงควายยังเป็นของพ่อ  แต่พอโตขึ้น รู้ความ พ่อก็โอนหน้าที่นี้ให้ผม 

คิดย้อนไป นับเป็นโชคดีของผม ที่ได้ฝึกทำงาน พาควายไปเลี้ยง ตักน้ำ เกี่ยวหญ้า อาบน้ำให้ควาย ได้รู้จักควายหลายตัว 

ควายบางตัวดื้อ ไม่ฟังความ เวลาเดินไปตามคันแทนา ชอบตวัดลิ้นเกี่ยวดึงต้นข้าวมากิน

บางตัวเป็นควายคะนอง เวลาฝนตกชอบออกกำลังกาย วิ่งไล่ขวิดควายตัวอื่น จนผมนึกโกรธมัน โดยเฉพาะตอนที่ต้องฝ่าลมฝนขณะฟ้าคำรามและส่องประกายแวบวาบปลาบแปลบ เพื่อไปแยกคู่มวยควายออกจากกัน

พ่อจะซื้อควายมาใช้งาน ไถคราดนาข้าวสวนหอมกระเทียม สาม-สี่ปีก็ขาย แล้วซื้อตัวใหม่ เอาเงินส่วนต่างไว้ทำทุน

เท่าที่จำได้ มีควายตัวใหญ่กำยำ แผ่นหลังแบนพอดีขึ้นนั่งควบไม่เจ็บก้นกบ เราผูกพันกันมาก  ค่ำนั้น ที่ไทแขกมาซื้อเพื่อนไป ผมไม่ยอมลงเฮือนไปบอกลามัน เคยบอกพ่อให้เอามันไว้ ไม่ต้องขายได้ไหม พ่อไม่ตอบ  รุ่งเช้ากลับจากไปเก็บใบหม่อนที่สวนกับย่า เราเห็นเพื่อสี่ขาถูกล่ามไว้ให้เล็มหญ้าที่โพนทางผ่าน ผมยืนจ้องตาเพื่อนอยู่นาน น้ำตาพาลจะไหล เดินจากมาด้วยความอาลัยรัก ไม่รู้ว่าเพื่อนจะถูกขายต่อไปไหนบ้าง...

นั่นคือรสชาติความจริงของชีวิตแบบหนึ่ง มีพบ มีพราก

แต่ก่อนหน้าที่ผมจะได้ทำหน้าที่เลี้ยงควายเอง  จำได้ น่าจะสัก 7-8 ขวบ พ่อพาไปเลี้ยงควายที่ทุ่งนาป่าละเมาะทางตะวันออกหมู่บ้าน ปัจจุบันเป็นศูนย์ราชการของอำเภอไปแล้ว

เราปล่อยควายให้มันเลาะหาเล็มหญ้า พ่อให้ผมนั่งเฝ้า สักพักได้ยินเสียงพ่อเรียก ไปถึง เห็นพ่อนั่งหงายฝาเท้าข้างหนึ่ง เลือดอาบแดงทั่ว พ่อบอกให้ไปเด็ดยอดเหล่าฮ่างมาให้ 

ผมเหงยหน้าขึ้น ดงเหล่าฮ่างเป็นฉากหลังของเรา เบื้องหน้าเป็นทุ่งหญ้าป่าละเมาะ แดดยามบ่ายสาดลงทรงพุ่มต้นหว้า ทอดเงามาตรงนี้ ตรงที่พ่อนั่งพักดูแผลจากเศษขวดแก้ว

ผมได้ยอดใบเหล่าฮ่างมากำหนึ่ง บิดขยี้ลงฝามือตามคำบอกของพ่อ พอมีน้ำจากยอดใบออกมาหน่อย พ่อก็หยิบไปกดปิดบาดแผล  สักครู่เลือดก็หยุดไหล

ผมรู้จักต้นเหล่าฮ่างและสรรพคุณของมัน ก็วันนั้นแหละ วันที่ยังเป็นผู้ช่วยพ่อ เลี้ยงควายตามป่าละเมาะ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที่สุดของรัก

คลิก ฟังเพลงกันครับ ที่สุดของรัก  คือเห็นความงาม เป็นความจริงล้ำค่า ที่สุดของเข้าใจ คือแสงเช้าสาดต้องยอดยางนาต้นใหม่ เป็นความปรารถนาผ่องพริ้...