ลองตามมาดูกัน
ปัญหาแรก เป็นปัญหาของคนประเภทเป้าใหญ่ คิดใหญ่ คิดแบบมืออาชีพ ต้องเขียนแบบนั้นแบบนี้ ต้องมีโครงเรื่องดีๆ ก่อน ต้องมีปมสุดยอดก่อน ต้องมีตัวละครในฝันก่อน... พวกนี้ ยากที่จะลงมือเขียน การคิดใหญ่คิดมาตรฐาน มันเป็นกำแพง เป็นลำคลองขวางกั้น ทำให้ต้องรอ... รอให้ได้ครบตามนั้นจึงจะลงมือ เชื่อเถอะ ผมว่าคนเราถ้าคิดไป รอไป ให้พร้อม ให้เลิศ... อีกนานกว่าจะได้เริ่ม อาจแก่เฒ่า หรือ ตายไปก่อนจะได้ลงมือ
ปัญหาข้อสอง เป็นปัญหาของคนประเภท ทำไม่ได้ ทำไม่ได้ เขียนไม่ได้ เขียนไม่เป็น พวกนี้ ส่วนใหญ่จะอ่านนิยายมาพอสมควรนะ อ่านแล้วสนุก อ่านแล้วประทับใจ เลยพลอยเห็นว่าการเขียนเป็นเรื่องของคนเก่ง คนมีพรสวรรค์ จึงดูถูกตนเองว่า เราไม่เก่ง ไม่มีพรสวรรค์ เขียนไม่ได้หรอก พวกนี้ น่าเห็นใจและน่ารำคาญใจด้วย
ปัญหาข้อที่สาม เป็นปัญหาของคนธรรมดาทั่วไป คือ เรื่องอะไรจะต้องเขียน มันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่งานสำคัญอะไร คือเป็นพวกไม่เห็นค่าของนวนิยาย แน่นอนครับ เมื่อไม่เห็นค่าสิ่งนั้น ก็เปล่าประโยชน์ที่จะเข็นให้เขียน ให้ทำในสิ่งนั้น
ข้อสุดท้ายเป็นปัญหาโลกแตก แก้ยาก จนกว่าเขาจะเกิดเห็นคุณเห็นค่าขึ้นมา อาจแก้โดยให้ลองอ่านนวนิยายสักเรื่องก่อน
พอชอบขึ้นมาก็เป็นพวกปัญหาข้อสอง ที่ต้องแก้โดยยุให้แต่ง อ่านของเขาแล้ว เขาก็คนเราก็คน เผลอๆ เรื่องของเราอาจมีเหลี่ยมมุมที่น่าสนใจมากกว่า หรืออย่างน้อยเราก็มีมรดกทางความคิดอ่านฝากโลกไว้สักเรื่อง น่าจะดีไม่น้อย ยุบ่อยๆ ยุเข้าไปๆ
จากนั้นเมื่อเขาอยากแล้วอาจเข้าเป็นพวกแรก วาดฝันผลงานไว้เลิศเลอ แล้วไม่ยอมลงมือเขียนสักที พวกนี้แก้โดยการบังคับทางอ้อม "เขียนมาหน่อย อยากอ่าน.. จะนำไปลงบล็อก ไปลงเว็บ นำไปอ่านลงยูทูบ..." เมื่อมีเป้าตรงหน้า จากคนรักคนศรัทธาตรงหน้า แถมอาจมีค่าเรื่องให้ด้วย เขาน่าจะลงมือได้ไวขึ้น
ที่เล่ามา เป็นความคิดเห็นเฉพาะของ ทางหอม นะครับ เห็นด้วยเห็นต่างอย่างไร เม้นต์มาคุยกันนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น