บทที่ ๖ บทสัมภาษณ์รุ่นพี่
ข่อหล่ออาสาเข้าทำงานเป็นกองบรรณาธิการวารสารโรงเรียน จากการชักชวนของรุ่นพี่ที่ได้อ่านบทกวีของเขาในวารสารประจำเมือง
งานแรกในฐานะกองบรรณาธิการวารสาร “หายโศก” ท้าทายและสนุกไม่น้อย
ข้างล่างนี้ก็คือ ผลงานการสัมภาษณ์รุ่นพี่ศิษย์เก่าของโรงเรียน ผู้เป็นนักเขียนดีเด่นประจำปีของวารสาร เมืองฮิมมูน
...
เรื่องจากปก
ฮอย ฮิมมูน กวีผู้รักนวนิยายสั้น
บ้านพักสองชั้นทรงลาวฝั่งขวาแม่น้ำของ ตั้งอยู่แคมห้วยวังนองฝั่งตาเว็นออก แทรกตัวอยู่ในสวนผลไม้สไตล์บ้านๆ มีบักเขียบ บักเฟียง บักขาม และกำแพงแผงกกหวดข่าสลับกกมอนที่แตกพุ่มใบเขียวดั้วคล้ายฉัตร เกี้ยวก่ายด้วยเครือหญ้านาง พื้นดินโบราณร่วนปนทรายดูสะอาดเพราะหญ้าถูกดายเสียเมื่อไม่นานมานี้
เรานั่งจิบชาใบหม่อนที่แม่ของกวีหนุ่มชงมาให้ คุยกันถึงประเด็นการสร้างงานกวีในยุคสื่อดิจิตอลออนไลน์...
กวีดีเด่น ดาวดวงใหม่ประจำวารสาร “เมืองฮิมมูน” ปี ๒๕๖๐ ได้ไขข้อข้องใจของนักอ่านหลายๆ คนว่า ทำไมบทกวีของเขาจึงเป็น กลอนเปล่า และทำไมเขาจึงฝันจะเขียนนวนิยายสั้น เชิญจิบกวีทัศนะได้ ณ วาระนี้
หายโศก : เล่าที่มาของนามแฝง ฮอย ฮิมมูน ให้รู้จักหน่อย
ฮอย ฮิมมูน : คือบ่ายมื้อหนึ่ง ไปเดินฮิมแม่น้ำมูนแถวๆ หาดคูเดื่อ เดินตีนเปล่า ไปเหยียบเปลือกหอยกาบหรือหอยจีบจี้ เลือดออกเป็นทาง เห็นฮอยเท้าสองสี สีทรายกับสีเลือด โอชีวิต มันมีสีสันนะ ฮอยเลือดบนหาดทรายฮิมแม่น้ำมูน เลยเอามาเขียนเป็นบทกวีบทแรกลงใน เมืองฮิมมูน ตั้งชื่อบทว่า ทางเลือด ใช้นามแฝงว่า ฮอย ฮิมมูน นี่ล่ะ
หายโศก : เขียนบทกวีดีๆ ทำไมจึงฝันอยากเขียนนวนิยายสั้น
ฮอย ฮิมมูน : อ่านนวนิยายสั้นอิตาลีที่เยาวชนควรอ่านของ อเลซซานโดร บาริกโก เรื่อง ไหม ที่เขียนขึ้นจากการได้ฟังเรื่องราวจากเพื่อนคนหนึ่งเกี่ยวกับบรรพบุรุษของเขา เป็นเรื่องราวของชายผู้หนึ่งที่เดินทางไกลไปยังอีกฟากฝั่งโลก มาญี่ปุ่นนี่ล่ะ ตัวละครเอกทำงานนี้เพียงปีละไม่กี่เดือน แต่มีรายได้สูงมาก นวนิยายสั้นเล่มนี้เขียนโดยใช้เทคนิคการแบ่งเป็น บทสั้นๆ จำนวน ๖๕ บท แต่ภาษากระชับ คมคายหลาย แม้คำที่นักเขียนเลือกใช้จะดูเรียบง่าย ก็ตาม ชีวิตคนเราก็ควรเอาอย่างวิธีเขียนของนักเขียนคนนี้นะ และผมก็ตามอ่านงานของ บาริกโก เล่มอื่นๆ อีกนะ ชอบทุกเล่มเลยอยากเขียนมั้ง เอาฉากแถวๆ เมืองเรานี่อาจเป็น ฮิมห้วยวังนอง ทางไปอำเภอตระการพืชผล ผาแต้ม ชายแดนช่องเม็ก หรืออื่นๆ ใส่ลงในนวนิยายสั้น น่าจะหม่วนสนุกดี คุณว่าไหม
หายโศก : อยากให้เล่าแผนการสร้างฝัน จากกลอนเปล่า ทำไมต้องเป็นนวนิยายสั้น
ฮอย ฮิมมูน : ก็ไม่มีอะไรมาก กลอนเปล่า หรือบทกวีกาพย์กลอนโคลงฉันท์ มันอาจเขียนเป็นเรื่องยาวอย่างท้าวปางคำรจนาสังสินไซได้ แต่คนอ่านยุคดิจิตอล หรือผมเองก็เถอะ อาจบ่อินบ่เก็ทนำ นิยายน่าจะเหมาะกับสมัยนิยมกว่า ภาษานวนิยายนี่ ผมชอบ ผมว่ามันเรียบง่าย ลดชั้นเชิงการเขียน ดูเป็นเพื่อน เป็นกันเองกับผู้อ่าน อ่าน สัมผัสได้ง่าย คันอยากเขียนบทกวีด้วยนำ กะสามารถใส่ลงไปในนวนิยายได้เลย และนวนิยายสั้นมันเปิดกว้างกว่าเรื่องสั้น และมันก็กระชับกว่านวนิยายขนาดยาว ถูกใจผม ผมพอใจกับมัน พอใจรูปแบบที่ยืดหยุ่น
...
เฮากะจิบชาใบมอนของแม่ แกล้มข้าวจี่ไส้น้ำอ้อยที่แม่กวีท่านกรุณาจี่มาเสิร์ฟ เพราะเห็นคุยกันออกรส บทสนทนากันตอนนั่น ว่าด้วยเรื่องสำมะปิ ความฮักแหนฺ เรื่องหนังสือนำ และเรื่องความเก่าหลังของกันและกัน... จนตาเว็นลับทิวไม้ฝั่งห้วยวังนองที่มีคลื่นน้อยทยอยอำลาแสงสุดท้ายของวัน
---
น่าอ่านน่าติดตามครับ
ตอบลบ