วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ข่อหล่อเพื่อนกัน | บทที่ 2 โดย ทางหอม

บทที่ ๒  สุดปรารถนาของกะปอมก่า


ว่าไปแล้ว สัตว์ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือหรอก แม้ไม่อ่าน ชีวิตก็ยังดำเนินไปได้ด้วยดี อย่างไม่มีอะไรเสียหาย ยังมีความสุขกับกิจกรรมธรรมดา ๆ การออกหากิน การใช้สัญชาตญาณเป็นอยู่ การเดิน วิ่ง ขับถ่าย นอนหลับพักผ่อน ตลอดจนพูดคุยสนทนากันในหมู่ของตน แต่สำหรับกะปอมก่าตัวหนึ่งนี้ กลับไม่ใช่ 

เขาต้องการอ่าน ไม่สิ เขาต้องการฟังใครสักคนอ่านหนังสือให้ฟัง เพราะเขาอ่านหนังสือได้ช้าเต็มที แต่ถึงแม้จะอ่านได้เร็ว มือของเขาก็เล็กเกินจะเปิดหน้าหนังสือได้อย่างง่ายดายเช่นมนุษย์ทั่วไป การฟังมนุษย์อ่านเรื่องราวในหนังสือให้ฟัง เป็นกิจกรรมที่กะปอมก่าตัวนี้ติดอกติดใจ ขนาดว่า ถ้าขาดสิ่งนี้แล้ว ชีวิตของเขาย่อมเหี่ยวเฉาลง คล้ายหอมต้นเล็ก ๆ ที่ชาวสวนไม่ได้รดน้ำ มาสักสามวันห้าวันนั่นเทียว

ที่ข้างกระท่อม บนต้นสะแบงใหญ่ สูงจากพื้นดินราวห้าเมตร มีนั่งห้างไม้รูปวงกลมล้อมรอบอยู่ มีบันไดไม้วนเป็นเกลียวให้เดินขึ้นสะดวก 

วันแรกที่เจอข่อหล่อ เขานอนอาบแดดอยู่บนราวไม้เหนือลูกกรงของห้าง ที่จริง หากห้างนี้ มีหลังคาและฝาผนัง พร้อมประตูหน้าต่างแล้ว ก็จะเรียกบ้านต้นไม้ได้เลยล่ะ ดูพื้นไม้สิ ปูด้วยไม้มันปลาแก่อย่างดี ลูกกรงและราวนั่นก็ด้วย

สามปีก่อน วันนั้น เด็กหนุ่มปั่นจักรยานมุ่งตรงมาตามทางดินทราย ที่มีไม้ประจำถิ่น พวกหว้า พะยอม ผะอุง ส้มหมั่ง ติ้ว... ยืนเด่นเป็นแนวกั้นระหว่างทุ่งนาสีเหลืองกล้วยสุกกับป่าละเมาะที่มีไม้พุ่ม พวกเล็บแมว ลอมคอม สาบเสือ... ไกลออกไป มองเห็นหมู่บ้านอยู่ลิบ ๆ

มาถึง พิงจักรยานไว้โคนต้น รีบวิ่งขึ้นบันได ทิ้งตัวลงนั่งพิงลำต้นสะแบง ดึงหนังสือปกสีน้ำเงินเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋าย่ามผ้าไหมลายตาหม่อง กางหนังสือออกและเริ่มอ่านออกเสียง 

กะปอมก่านอนฟังเรื่องราวเกี่ยวกับนกนางแอ่นหนุ่มตัวหนึ่ง กับเจ้าชายรูปงามที่ถูกปั้นขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ทั้งสองให้สัญญาใจกันและร่วมมือกันช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากในเมืองนั้น มันเป็นเรื่องราวที่กะปอมก่าฟังแล้วรู้สึกตื้นตันใจ จนปริ่ม ๆ จะมีน้ำใส ๆ เอ่อท้นดวงตาเล็ก ๆ ของเขา เพราะถ้อยคำของนักเขียน ที่บรรยายถึงความรู้สึกของนกน้อยผู้อิ่มเอมกับภารกิจสำคัญของชีวิต ได้อย่างชวนซาบซึ้งใจ มีข้อความทำนองว่า การที่เราได้เกิดมาแล้วมีโอกาสแบ่งปัน ช่วยเหลือชีวิตอื่น ๆ นั้น นับเป็นโชคมหาศาลและคุ้มค่าที่ได้เกิดมาอย่างที่สุด แม้ว่าท้ายที่สุด ตนเองอาจต้องสละชีวิตเพื่อภารกิจนั้นก็ตาม

หนังสือในมือเด็กหนุ่มในวันนั้น ปกนอกพิมพ์ชื่อเล่มว่า เจ้าชายผู้มีความสุข ท้ายเล่มระบุชัดว่า ผู้แต่งเป็นนักเขียนและกวีชาวไอริช นามของเขาคือ ออสการ์ ไวลด์ (Oscar Wild, 1854-1900).

***




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที่สุดของรัก

คลิก ฟังเพลงกันครับ ที่สุดของรัก  คือเห็นความงาม เป็นความจริงล้ำค่า ที่สุดของเข้าใจ คือแสงเช้าสาดต้องยอดยางนาต้นใหม่ เป็นความปรารถนาผ่องพริ้...